กระกองเพชร หรือ แคคตัส (Cactus) มีที่มาจากภาษากรีกโบราณ แปลว่า ไม้มีหนาม เป็นพืชที่เติบโตในบริเวณที่แห้งแล้ง มีการปรับตัวดำรงชีวิตได้โดยการเปลี่ยนจากใบเป็นหนาม และสามารถกักเก็บน้ำไว้ในลำต้นได้มาก ส่วนใหย๋ถิ่นกำเนิดของต้นกระบองเพชรนั้นจะอยู่ใน ทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริการใต้ มีอยู่ประมาณสองพันชนิด ต้นกระบองเพชรนั้นเป็นพืชที่ปรับตัวเก่งเข้ากับสภาพแวดล้อมที่นำมาปลูกได้ดี ปัจจุบันมีพันธุ์ที่ถูกนำมาปรับปรุงสายพันธุ์จนมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์สวยงาม
แคคตัสก็กินได้นะ
ต้นกระบองเพชรนั้นหลายสายพันธุ์ที่สามารถกินได้ นอกจาก โอพันเทีย แล้วที่คุ้นชื่อกันดีนั่นก็คือ แก้วมังกร ก็เป็นแคคตัสชนิดหนึ่งที่กินได้
การขยายพันธุ์ในรูปแบบต่างๆ
- การปักชำหน่อ เป็นวิธีที่ง่ายและนิยมทำมากที่สุด เพราะเป็นวิธีการทำที่ง่ายแล้วต้นเติบโตได้เร็ว
- การเพราะเมล็ด มีข้อดีคือจะได้รากที่แข็งแรงต้นออกมาฟอร์มดีเพราะไม่ถูกเร่งให้เติบโตเมื่อนำไปขายจะขายได้ราคาดี
- การต่อยอด หรือที่นิยมเรียกคือ กราฟต์ (Grafting) เป็นวิธีที่นำแคคตัสพันธุ์ดีมาต่อบนต้นต่อที่แข็งแรง ซึ่งจะช่วยให้ต้นพันธุ์เติบโตเร็ว นิยมนำต้นพันธุ์ที่โตช้ามาต่อยอดบนต้นตอ
- วิธีปักชำใบ วิธีการคือเด็ดใบให้ใกล้กับส่วนโคนต้นมากที่สุด แล้วบางใบหงายขึ้นหรือเฉียงลงในวัสดุปลูก ทื้งไว้ 1-2 สัปดาห์ ให้น้ำตามปกติรากจะค่อยๆยอกออกมาที่โคนขอบใบ
เลี้ยงด้วยหลอดไฟ
สำหรับท่านที่อยากเลี้ยงแคคตัสแต่ที่บ้านมีพื้นที่จำกัดหรือไม่มีเวลาจะนำต้นกระบองเพชรออกไปรับแสงแดดได้ หลอดไฟก็สามารถช่วยเพื่อนๆได้ โดยนิยมใช้หลอดแอลอีดีซึ่งประหยัดพลังงาน ความร้อนต่ำ แต่ให้ปริมาณแสงที่มากมาใส่กับโคมไฟที่ใช้กับตู้ปลา เปิด 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งแสงที่นิยมใช้คือแสงสีม่วงอมชมพูจะทำให้ต้นกระบองเพชรนั้นเติบโตได้ดีแต่ไม่เป็นมิตรกับสายตาของเพื่อนๆซึ่งไม่ควรจ้องเป็นเวลานาน
โรงเรือนนั้นสำคัญอย่างไร
โรงเรือนนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเพราะ การมีโรงเรือนจะช่วยในเรื่องของการควบคุมปัจจัยต่างๆในการปลูกต้นกระบองให้ออกมาได้อย่างสวยงามแข็งแรงและไม่มีโรค สำหรับโรงเรือนนั้นมีหลายแบบหลายขนาดแล้วแต่เพื่อนๆจะเลือกให้เหมาะกับพื้นที่ของเพื่อนๆเลย ซึ่งๆหลักแล้วจะมีโรงเรือนแบบสำเร็จรูป และโรงเรือนที่สร้างขึ้นเอง เพราะฉะนั้นก็ล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับเพื่อนๆเลยว่าจะพิจารณาเลือกใช้โรงเรืองแบบใด
การรดน้ำ
ต้นกระบองเพชรนั้นก็ต้องการน้ำเหมือนกับต้นไม้ประเภทอื่นๆ ควรรดให้ต้องชุ่มแหละปล่อยทิ้งไว้ 3-5 วันจนแห้งหรือแล้วแต่สภาพอากาศในฤดูนั้น เมื่อสังเกตุดูว่าดินแห้งสนิทจึงทำการรดน้ำอีกครั้ง ส่วนใหญ่นยิมใช้ดิน อะคาดามะโรยทับลงบนวัสดุปลูก โดยคุณสมบัติของดินชนิดนี้คือ เวลาแห้งดินจะมีสีอ่อนกว่าเวลาที่เปียกจึงสังเกตุได้ง่ายขึ้น ว่าตอนไหนควรต้องทำการรดน้ำ วีธีรดน้ำควรใช้บัวรดน้ำหัวฝอยเพื่อให้ต้นไม้ได้รับน้ำแบบพอดีๆ
อาหารของแคคตัส
อาหารของต้นกระบองเพชร นั้นนิยมใช้ปุ๋ยละลายช้า มีให้เลือกทั้งสตรู 3 เดือน และสตรู 6 เดือน โดยไปรอบกระถางโดยไม่ต้องผสมน้ำ เพราะเวลารดน้ำปุ๋ยจะค่อยๆซึมลงไปเองโดยอัตโนมัติ
ศัตรูของแคคตัส
โรคและแมลงศัตรูพืชของแคคตัส คือ
- เพลี้ยหอย ลำตัวเป็นเกล็ดสีน้ำตาลคล้ายเปลือกหอย คอยดูดน้ำเลี้ยงจนต้นตายได้ซึ่งระบาดได้ง่ายเมื่อพบควรใช้มีดขูดออกให้ได้มากที่สุดแล้วใช้สารเคมีจำพวกมาลาไทออนฉีดพ่นซ้ำ
- ไรแดง หรือแมงมุมแดง มีลักษณะเป็นจุดแดงมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเคลื่อนที่เร็ว มักร่องรอยความเสียหายไว้บนผิวหรือยอด ป้องกันโดยการฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดประเภทดูดซึมทุก 10 วัน
- โรคราสนิม เกิดภาวะการปลูกที่ไม่เหมาะสม อับชื่น จนเกิดเชื้อรา ควรควบคมภาวะการเลี้ยงให้ดีขึ้น และกำจัดเชื้อราโดยการใช้สาร คาร์เบนดาซิม แมนโคเซบ แคปแทน ใช้สลับกันไปเพื่อไม่ใช้เชื้อรานั้นดื้อยา
สายพันธุ์ของต้นกระบองเพชรนั้นมีหลากหลายแบบเพื่อนๆควรเลือกพันธุ์ที่ชอบและตรงกับการดำรงชีวิตอยู่ของเราเพื่อสะดวกในการดูแลให้ต้นไม้สวยงามไปได้ตลอด และที่สำคัญที่สุดคือต้องศึกษาข้อมูลของพันธุ์นั้นให้ดีเพื่อต้นกระบองเพชรจะได้แข็งแรงสุขภาพดีและอยู่กับเพื่อนๆไปได้อีกนานๆ ^^
More Stories
วิธีดูแลสนามหญ้าให้สวยงามอยู่เสมอ
การปลูกเมล่อนญี่ปุ่น
10 ต้นไม้ปลูกในบ้าน